7 โมงเช้า เจ้าแก่ของเรามาเข้าคิวเป็นคันที่ 4 ที่ท่าเรือ Wellington ซึ่งจะเริ่มเปิดให้รถเข้าเช็คอินเวลา 8.00 น . ไม่นานนักพวกเราก้อสังเกตเห็นว่ามีรถมาเข้าคิวต่อจากรถเรากันยาวหลายคันกันทีเดียว ท้องฟ้าจากเดิมที่มีแต่เมฆฝน ตอนนี้ก้อค่อย ๆ มีแสงแดดร่ำไรมากขึ้นแล้ว เย้ ! น้ำจะได้ไม่รั่วเข้ารถแล้วคร้าบบบบ
8.20 น. รถทุกคันก้อเริ่มสตาร์ทเครื่อง คนที่เดินลงไปยืดเส้นยืดสายก้อกลับมาขึ้นรถกันหมดแล้ว เจ้าแก่ของเราได้เช็คอินอยู่เลนส์ที่ 6 รถที่จะลงเรือเฟอรี่ หลังจากเช็คอินยื่นบัตรที่ซื้อมาแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้สติ๊กเกอร์เป็นรูปปลาโลมา (น่ารักมาก) มาติดที่กระจกหน้ารถ พร้อมกับป้ายพลาสติก (อันโต) ตามจำนวนผู้โดยสาร จากนั้นจะต้องนำรถไปเข้าคิวที่ลานจอดรถที่แบ่งออกเป็นเลน 1, 2, 3, 4 ... ไปจนถึง 8 พอเช็คอินเสร็จปุ๊ป เจ้าเมฆฝนที่ว่าไม่น่าจะตกแล้ว ก้อดันตกมาอีกระลอกหนึ่ง คราวนี้ตกหนักกว่าเดิมด้วย ( ซู่ ซู่ ) ทำเอาคนนั่งข้างหลังซับน้ำฝนกันไม่ทันทีเดียว 555
จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ก้อเริ่มโบกไม้โบกมือให้รถที่จอดคอยอยู่ขับขึ้นเรือทีละเลน บนเรือ Inter Islander นั้น มีที่จอดรถกว้างขวางมาก ประมาณด้วยสายตาว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 70-80 คัน หลังจากได้ที่จอดรถ (ซึ่งแต่ละคันต้องจอดติดชิดกันสุดๆ) พวกเรารีบเก็บข้าวของที่จำเป็น (อย่างเช่นกระเป๋าตังค์ , กล้องถ่ายรูป , ขนมขบเคี้ยวสารพัด และสมุดคู่ใจ) ขึ้นไปบนเรือลำใหญ่ของเรา บรรยากาศภายในเรือด้านบนนั้นกว้างขวางมาก สะอาดสะอ้าน มีการแบ่งที่นั่งออกเป็นสัดส่วน มีมุมที่นั่ง และของเล่นสำหรับเด็ก มีการแบ่งส่วนที่เป็นห้องอาหาร ห้องขายของที่ระลึก ห้องขายหนังสือ โรงฉายภาพยนตร์ ฯลฯ พวกเราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูปทั้งด้านใน และชั้นดานฟ้าบนเรืออยู่นานพอสมควร เรือค่อยๆ แล่นออกจากท่าเรือ Wellington ออกสู่ช่องแคบคุก (Cook Strait) มุ่งหน้าสู่เมืองพิคตัน (Picton) เมืองท่าเล็กๆ ของเกาะใต้ ตามกำหนดเวลาจะถึงประมาณ 12.30 น .
12.20 ใกล้ถึงเมืองพิคตันแล้ว พวกเราจึงรีบกลับไปเข้าประจำที่ในรถกัน ส่วนคนที่ไม่ได้ขับรถมาก้อคงจะไปยืนคอยตรงทางผู้โดยสารขาออก (อันนี้เดาเอา เพราะไม่ได้ไปยืนอยู่กับเค้าด้วย) รถทุก ๆ คันก้อติดเครื่องกันกระหึ่ม มองไปรอบๆข้าง รถส่วนใหญ่จะเป็นแบบรถตู้ Motorhome ขนาดประมาณตั้งแต่ Kia Carnival จนไปถึงรถบรรทุก 6 ล้อติดหลังคา ซะมากกว่าครึ่ง
พิคตัน (Picton) เมืองเล็กๆ แต่รู้สึกอบอุ่นยังงัยไม่รู้บอกไม่ถูก มีประชากรเพียงแค่ 3,600 คน (โดยประมาณจากหนังสือ Lonely Planet เล่มโปรด) เป็นเมืองท่าของเรือเฟอร์รี่ที่วิ่งระหว่างเกาะเหนือ - ใต้ หลังจากขับรถวนเที่ยวในเมือง 1 รอบแล้ว จุดหมายปลายทางแรกของเราในเกาะใต้ คือ เนลสัน (Nelson) ไม่นานนักเราก้อมาถึงเมืองเบลนเฮม (Blenheim) เมืองที่ใหญ่ที่สุดใน Marlborough Sounds และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางโด่งดังทางด้านไวน์เมืองหนึ่งของนิวซีแลนด์ ตอนนี้น้ำย่อยของเราเริ่มทำงานกันแล้ว มีเสียงเตือนมาเป็นจังหวะ ๆ เราจึงตัดสินใจแวะหาอาหารเที่ยงกินกันที่เมืองนี้ และร้านอาหารที่ถูก เร็ว และอร่อย ในสายตาเราตอนนี้ก้อคือ McDonalds ร้านนี้ไม่ว่าไปที่ประเทศไหน ๆ ก้อจะมีให้เห็นกันจนชินตา แต่ทว่า McDonalds ที่นี่ไม่มีซามูไรเบอร์เกอร์เมนูโปรดของเราเนี่ยนะซิ ฮือ ! ฮือ !
15.30 น. ถึงแล้วจ้า เนลสัน (Nelson) เมืองที่มีท้องฟ้าสวย ๆ น้ำทะเลใส ๆ และเป็นสวรรค์ของพวกชอบเดินป่าและ Camping มีกิจกรรมให้เลือกทำกันมากมายตลอดปี แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงคือ อุนยานแห่งชาติอาเบล ทัสมาน (Abel Tasman National Park) โปรแกรมหลักของพวกเราในวันพรุ่งนี้ คืนแรกของเราในเกาะใต้ เราพักกันที่ YHA Hostel ซึ่งที่นี้จัดเป็น YHA ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งในนิวซีแลนด์ สถานที่ค่อนข้างสะดวกสบาย สะอาด และเป็นระเบียบ พร้อมห้องครัวขนาดใหญ่ เราเลือกห้องนอนแบบนอนรวมกันสี่คนเลย เพราะว่าทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก มือเย็นของเราวันนี้เป็นผัดไทยสำเร็จรูปตรา Trident หนึ่งในข้าวของที่เราขนกันมาจนตูด (รถ) ห้อย คืนนี้เราเข้านอนกันแต่หัวค่ำเก็บแรงไว้สำหรับกิจกรรมพรุ่งนี้ ที่คาดว่าจะทำให้น้ำหนักพวกเราลดลงไปคนละหลายโลทีเดียว ZZZzzzz (กม.151) |
