ตลุยเกาะใต้ ( แบบว่ามันสุดๆ ) 13 วัน .... เรื่องและภาพ By PFK ....

 
   Day 13   Christchurch - Akaroa - Kaikuora - Picton - Wellington
 

เช้านี้พวกเรารีบตื่นกันแต่เช้า เพราะเรามีนัดสำคัญมาก ๆ เรารีบทำอาหารเช้ากันแบบง่าย ๆ และเตรียมแพคกระเป๋าเพื่อ Check-out ออกจาก YHA เลย เพราะเราต้องขับรถไปที่อาคารัว (Akaroa) เพื่อกิจกรรมพิเศษกับบรรดาปลาโลมาที่คอยพวกเราอยู่ จากเมือง Christchurch ไป Akaroa ระยะทาง 82 กม. หรือประมาณหนึ่งชั่วโมง Akaroa เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Christchurch ชื่อเมืองมีความหมายตามภาษาเมารี แปลว่า “ Long Harbour ” เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในตัวเองโดยมีวิวชายทะเลที่สวยงามและผสมผสานกับกลิ่นไอของฝรั่งเศสอยู่ด้วย เช่นชื่อตรอก ถนน หรือบ้านเรือนล้วนแต่เป็นแบบสไตล์ฝรั่งเศส


แปดโมงครึ่ง เรามาถึงที่นัดกับไว้ทันเวลาพอดี มีนักท่องเที่ยวทยอยกันมาเรื่อยๆ บางคนก้อตั้งใจมาว่ายน้ำกับปลาโลมาเหมือนเรา แต่บางคนก้อมาเพียงแค่นั่งมองอยู่บนเรือเท่านั้น พวกเราตั้งใจกันมาเต็มที่ว่าจะต้องว่ายน้ำกับปลาโลมาให้ได้ ตอนแรกเราอยากไปทำกิจกรรมนี้ที่เมือง Kaikuora แต่เพราะเป็นช่วงวันหยุดจึงทำให้ Full Booking เราจะได้เจอกับปลาโลมา Hector ที่เมือง Akaroa แทน


หลังจากเปลี่ยนใส่ชุด Wetsuit กันเรียบร้อย เราก้อเตรียมเดินทางไปพบกันเพื่อนๆ ที่รักได้เลย อากาศวันนี้ไม่หนาว และไม่ร้อน แสงแดดอ่อนกำลังพอดี เรานั่งเรือออกไปจากฝั่งประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ประจำเรือก้อเริ่มชะลอเครื่องยนต์เป็นสัญญาณบอกพวกเราแล้วว่าตรงนี้แหละที่เราจะได้เจอกับเจ้า Hector ผู้ร่วมเดินทางมาด้วยก้อเริ่มออกมายืนดูด้านนอกแล้วว่าใครจะได้เจอเจ้า Hector ก่อนกัน .... เรารออยู่พักหนึ่ง .. เจ้าหน้าที่บนเรือบอกกับเราพวกมันมากันแล้ว ให้เรากระโดดลงน้ำได้ ..


“ ตูม !! ตูม !!” เสียงนักผจญภัยทั้งหลายกระโดดลงน้ำ ทุกคนล้วนแต่ตื่นเต้นกับการที่จะได้สัมผัสกับเจ้าปลาโลมา แต่เจ้าหน้าที่บนเรือบอกกับเราว่า “ ห้ามยื่นแขนออกไปจับพวกมัน เพราะว่าเค้าไม่สามารถควบคุมพวกมันได้ ” ทั้งนี้เป็นเพราะพวกปลาโลมาเหล่านี้ไม่ได้ถูกเลี้ยงอยู่ในสระน้ำเหมือนกับที่อยู่ตามสวนสัตว์ หรือตามสถานที่โชว์ปลาโลมาทั่วไป ตอนที่เรากระโดดลงน้ำ เรารู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นของน้ำ อุณหภูมิในน้ำน่าจะอยู่ที่ประมาณ 13-14 องศา ... ก้อเป็นน้ำที่เย็นพอสมควรเลย มือของเราเย็นไปหมดเลย รอบแรกที่เราลงไปมีคนอื่นๆ บอกว่า “ มาแล้ว มาแล้ว ” แต่ไหง๋เราหันไปหันมา ไม่เห็นเลย สงสัยว่ามันจะว่ายน้ำเร็วเกินไป ขอขึ้นเรือก่อนดีกว่า แล้วคนอื่นๆ ก้อเริ่มทยอยขึ้นเหมือนกัน เพราะคนเรือบอกกับเราว่าจะเปลี่ยนไปดูที่อื่น


คราวนี้ออกไปไกลจากตำแหน่งเดิมไป เราเห็นชัด ๆ เลยพวกเค้าว่ายเข้ามาทักทายเรา แล้วเราจะรอช้าทำไมล่ะไปกันเลย ... “ ตูม ตูม ” กันอีกครั้ง คราวนี้ได้ยลโฉมกันใกล้ ๆ กับเจ้า Hector ถึงแม้จะมากันไม่กี่ตัวแต่เราก้อดีใจที่ได้เจอกัน ถ้ามาเป็นฝูงก้อคงจะรีบว่ายกลับขึ้นเรืออยู่เหมือนกันแหละ จากกิจกรรมอันแสนสนุก เราก้อต้องกลับบ้านกันแล้ว ... บาย บ้าย Hector


หลังจากที่เราแวะถ่ายรูป และขับรถรอบๆ เมือง Akaroa กันสักพักเราก้อได้เวลาต้องกลับกันแล้ว เส้นทางนั้นเราต้องย้อนกลับทางเดิมผ่าน Christchurch เพื่อรับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้ไปด้วย 4 โมงเย็นกว่าๆ เรามาถึงเมือง Kaikuora ซึ่งเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดู และว่ายน้ำกับปลาโลมา Dusky และที่ฮิตที่สุดคือการนั่งเรือออกไปชมปลาวาฬเสปิร์ม (Sperm Whale) ซึ่งเป็นปลาวาฬที่วัดความยาวได้ถึงกว่า 20 เมตร ทุ่มครึ่งเรามาถึงเมือง Bleheim ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านไปยัง Picton เพื่อที่เราจะได้ขึ้นเรือเฟอร์รี่กลับเกาะเหนือ แต่ก่อนที่เราจะขับรถกันต่อไป ก้อต้องแวะเติมพลังงานให้ท้องของพวกเรากันก่อน อาหารที่คุ้นตาที่สุดสำหรับพวกเรา ครั้งนี้คงต้องพึ่ง “ ลุงเคน (KFC)”


ถึงแล้วเมือง Picton เรารอต่อแถวเข้า Check in ที่ท่าเรือ ซึ่งจะออกเดินทางเวลา 3 ทุ่มตรง หลังจากที่จอดรถกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราเตรียมสำภาระ และย้ายเสบียงขึ้นไปบนเรือเตรียมตัวเข้านอน เพราะเรือใช้เวลาข้ามฝั่งจากเกาะใต้ไปยังเกาะเหนือ 3 ชั่วโมงเศษ พวกเราคงได้พักสายตากันคนละงีบ เรือมาถึง Wellington เที่ยงคืนครึ่ง หลายคนยังไม่อยากตื่น สงสัยอยากจะไปเที่ยวเกาะใต้กันอีกรอบ อิอิ (กม.3638)

 

ถึงแล้ว Akaroa
เพื่อมาทำอะไรบางอย่าง
แค่อยากเจอกับเจ้าตัวนี้
มากันเป็นคู่แม่ลูก
อีกตัวหนึ่ง
ไม่ใช่มาว่ายน้ำเล่น
           
สนุกจังเลย
แต่ก้อต้องกลับแล้ว
ประภาคาร
เจอสิงห์นักปั่นอีกแล้ว
เมือง Kaikuora