ตลุยเกาะใต้ ( แบบว่ามันสุดๆ ) 13 วัน .... เรื่องและภาพ By PFK ....

 
   Day 5   Wanaka-Dunedin
 

7 โมงเข้ากว่าพวกเราตื่นขึ้นมาจิบกาแฟร้อนๆ พร้อมกับดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตรงหน้าเรา Wanaka เป็นเมืองสกีเมืองหนึ่งที่มีความสวยงาม และมีรีสอร์ท(ราคาแพง)มากมาย รายล้อมอยู่รอบทะเลสาบ และขุนเขา หากพวกเรามีเวลามากกว่านี้ พวกเราอยากจะพักอยู่ที่นี้กันมากกว่านี้ แต่เนื่องจากโปรแกรมเรากำหนดไว้แล้ว ทำให้เราต้องจำใจลาจากเมืองนี้ไป


ไม่ไกลจากตัวเมืองเรามาถึง Puzzle World ทางเข้าด้านหน้า มีหอคอยเอียง ตั้งเด่นอยู่ นักท่องเที่ยวส่วนมากก้อจะไปยืนถ่ายรูป ทำท่าแกล้งเป็นว่าแบกหออันนี้ไว้ ไม่รอช้ากันเลยเรา ลองดูกันบ้างดีกว่า เมื่อผ่านเข้าไปด้านในของ Puzzle World พวกเราก้อต้องแปลกใจกับเขาวงกตที่เห็นอยู่ตรงหน้า แต่ที่นี่เค้าไม่ได้มีไว้ให้หาทางออก แต่โจทย์คือ ผู้เล่นจะต้องหาเดินทางไปที่ป้อมทั้งสี่ที่อยู่ทั้งสี่มุม โดยแต่ละป้อมจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป คือ เขียว , แดง , น้ำเงิน และเหลือง ผู้เล่นจะต้องหาทางเดินไปยังป้อมต่างๆให้ได้ และจะท้าทายมากขึ้นถ้าสามารถเรียงตามสีที่เค้ากำหนดไว้อีกด้วย แหม ได้ยินอย่างนี้แล้วเราทั้งหมดก้ออยากที่จะลองเดินเล่นดู แต่พอเอาเข้าจริงๆ ยากส์เหมือนกันนะเนี้ย เพราะว่าทางที่เดินไปเดินมาไม่ใช่ว่าจะหาทางไปที่มุมที่ต้องการได้เลย แต่ก้อเพราะว่าหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวเราก้อเดินไปตามจุดที่เค้ากำหนดได้ แต่ก้อทำเอาเหนื่อยพอดู พอเสร็จจากเกมส์เขาวงกตกันแล้ว เราก้อไปต่อกันที่ห้องพิศวง ห้องนี้ชื่อก้อบอกอยู่แล้วว่าใครได้เข้าไปต้องเป็นพิศวงแน่นอน มีหน้ากากที่พอเอามือปิดตาซ้ายก้อจะเห็นหน้ากากนั้นยื่นออกมา แต่พอเปลี่ยนข้างปิดตาดูก้อจะเห็นว่ามันกลับบุ๋มเข้าไปซะอีกแน่ะ … แปลกมั้ยล่ะ และพอเราออกจากห้องนั้นมาแล้วก้อทำหน้า “ งง ” กันไปเป็นแถวๆ เลย … และที่แน่นอนทุก ๆ ที่ก้อต้องของฝากให้นักท่องเที่ยวได้ช๊อปปิ้งติดไม้ติดมือกันไป เราก้อซื้อจิ๊กซอว์กันคนละกล่องสองกล่อง ถึงตอนที่มานั่งพักเหนื่อยกันที่โต๊ะพักผ่อนยังมีเกมส์ต่าง ๆ ให้คนที่ได้นั่งพักประลองฝีมือกันอีกด้วย … อย่างนี้สิถึงจะสมชื่อ Puzzle World จริง ๆ เลย


บ่ายโมงแก่ๆ เราเดินทางมาถึง Cromwell เมืองทางผ่านก่อนที่จะไปถึงเมือง Dunedin เมือง Cromwell นี้เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่น่ารักอีกเมืองหนึ่งในเกาะใต้ และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านผลิตผลทางการเกษตร เรามีโอกาสได้แวะซื้อผัก และผลไม้บ้างเล็กน้อย หยุดพักรถและเติมน้ำมัน ภูมิประเทศสองข้างทางจาก Cromwell ไป Dunedin หากเป็นภาษาไทย คงต้องเรียกว่าเขตเงาฝนล่ะมั้ง เนื่องจากสองข้างทางส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง สลับกับภูเขาใหญ่น้อย จาก Cromwell มาประมาณครึ่งชั่วโมง เราแวะถ่ายรูปกันที่ Township of Clyde เป็นเมืองที่เล็กมากซะยิ่งกว่าคอมม์เวลส์ซะอีก มีผู้คนอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคน เป็นเมืองที่เงียบสงบอยู่ท่ามกลางภูเขาที่เรียบทะเลสาบ ริมเขื่อนขนาดเล็กที่สวยงาม


ห้าโมงเย็นในที่สุดพวกเราก้อมาถึงที่พักคืนนี้กันแล้ว เป็นเมืองที่อยู่ก่อนถึง Dunedin เพียงแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น … โมสกิสส์ (Mosguiel) บ้านที่เรามาพักครั้งนี้เค้าเป็นเพื่อนกับโฮมสเตย์ของหนึ่งในสมาชิกคนเดินทางของเรา (งง มั้ยเอ่ย) พอพวกเขารู้ว่าพวกเราจะเดินทางมายัง Dunedin ต่างเต็มใจและยินดีที่จะให้พวกเราไปพักกับพวกเขา พอพวกเราลงจากรถกันปุ๊ป ก้อมีตายายคู่หนึ่งเดินมารับเรา Eunice และ Les Preston ความรู้สึกครั้งแรกที่เราได้เจอทั้งสองคนนี้ มีความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองมาก และเมื่อได้พูดคุยกันแล้วยิ่งทำให้ประทับใจในความน่ารักของเจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก ภายในบ้านตกแต่งได้น่ารักมากจริง ๆ และยังรู้มาอีกว่า Eunice ชอบปักครอสติสมาก ๆ เพราะของใช้ในบ้าน ที่รองแก้ว กรอบรูป ผ้าเช็ดมือ ล้วนแต่มีฝีมือการปักครอสติสอยู่ด้วยทั้งนั้น … เย็นนั้นพวกเราก้อไม่รอช้า ลงมือทำอาหารให้เจ้าของบ้านได้ลิ้มลองกัน ทั้งอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่น ทำเอาเจ้าของบ้านและพวกเราอิ่มไปตาม ๆ กันเลย ต่อจากอาหารเย็นก้อเป็นการนั่งสนทนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์และฟังทั้งสองคนเราเรื่องราวต่างๆ ให้พวกเราฟัง ทั้งประสบการณ์การเดินทางไปเยือนประเทศอื่น ๆ ของทั้งสองคน ของสะสม งานอดิเรก แนวคิด และมุมมองต่างๆ ฯลฯ เป็นประสบการณ์ที่สุดแสนประทับใจของพวกเรา (กม.1489)

 

Purple Cow Backpack
วิวหน้าที่พัก
Lake Wanaka 1
Lake Wanaka 2
Puzzle world
ทางเดินเขาวงกต
           
Clyde
Clyde 2
ฝูงแกะระหว่างทาง